1/15/2559

การปลูกพริกหวาน พริกหยวกหรือพริกยักษ์

พริกหยวก, พริกหวาน หรือพริกยักษ์ bell pepper, sweet pepper หรือ capsicum เพันธุ์ของสปีชีส์ Capsicum annuum พริกหยวกจะให้ผลสีต่าง ๆ กัน
รวมถึงแดง เหลือง ส้มและเขียว บางครั้งพริกหยวกถูกจัดกลุ่มรวมกับพริกที่เผ็ดน้อย เรียกว่า "พริกหวาน"
 พริกเป็นพืชประจำถิ่นในเม็กซิโก อเมริกากลางและทวีปอเมริกาใต้ตอนเหนือ
 พริกยักษ์ พริกหวาน sweet pepper
สภาพเติบโตของพริกหยวก มีดินอุ่น ซึ่งควรมีอุณหภูมิระหว่าง 70-85 องศาฟาเรนไฮต์ เก็บไว้ในที่ชื้นแต่ไม่มีน้ำเข้าเต็ม  พริกหยวกไวต่อความชื้นและอุณหภูมิที่สูงเกิน

พริกหวาน
          พริกขนาดใหญ่สีสันสดใส  มีลักษณะกลมออกยาวๆ นิยมนำมาผัดเพราะไม่มีรสเผ็ด หรือใช้ประดับตกแต่งอาหาร เนื่องจากมีสีสันที่สะดุดตา และมีสารแคปไซซินตํ่า จึงไม่มีรสเผ็ดจนถูกเรียกว่า"พริกหวาน"

ประโยชน์ของพริกหวาน
          พริกหวานจะมีเบตาแคโรทีนสูง มีวิตามินซี เหล็ก และโพแทสเซียม ซึ่งพริกหวานสีเหลืองจะมีไวตามินมากกว่าพริกหวานสีส้มถึง 4 เท่า ส่วนพริกหวานสีเขียว 100 กรัมก็จะมีไวตามินซี 100 กรัมเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีสาร แคบไซซิน ช่วยยับยั้งอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหลอดเลือด โรคต้อกระจก และโรคมะเร็ง
ในหนึ่งเมนูของวัน ถ้ามีพริกหวานเป็นส่วนประกอบก็จะช่วยกระตุ้นทางการทำงานของกระเพาะอาหาร ทำให้ระบบการย่อยอาหารดีขั้น ช่วยเจริญอาหารบำรุงธาตุ ขับเหงื่อ ขับลม ขับเสมหะ แก้อาเจียน แก้หิด กลากเกลื้อน และสามารถลดความด้นโลหิตได้ เพราะทำให้หลอดเลือดอ่อนตัว และช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดเป็นไปได้ดี

สภาพแวดล้อมการปลูกพริกหวาน
          พริกหวาน ชอบสภาพที่มีความชื้นต่ำ จะทำให้อัตราการติดผลลดลง อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการผสมเกสรอยู่ระหว่าง 20-25 องศา มีความชื้นสัมพัทธ์สูง ใสสภาพอุณหภูมิต่ำกว่า 18 องศา หรือสูงกว่า 32 องศา จะจำกัดการผสมเกสร อัตราการติดผลต่ำ พริกหวานสามารถเจริญเติบโตได้ดี ในดินร่วนปนทราย ระบายน้ำได้ดี และมีค่าความเป็นกรดด่างอยู่ระหว่าง 6.0-6.8

การปฏิบัติดูแลรักษา พริกหวาน ระยะต่างๆ ของการเจริญเติบโต
การเตรียมกล้า ทำการยกแปลงขนาด 1 ม. ย่อยดินให้ละเอียด แปลงห่างกัน 70 ซม. ร่องลึกประมาณ 10 ซม. ทำขวางแปลงความห่างระหว่างร่อง 10 ซม. รองพื้นด้วยไตรโคเดอร์ม่า หว่านเมล็ดแล้วกลบดิน รดน้ำให้ชุ่ม หรือคลุมด้วยตาข่ายพลาสติก หลังจาก 7-10 วัน ย้ายกล้าลงในหลุม

การเตรียมดิน
ขุดดินทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ เก็บวัชพืชออกให้หมด ย่อยดิน แล้วใส่ปูนขาวคลุกเคล้าร่วมกับปุ๋ยคอก และปุ๋ยสูตร 0-4-0 ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน ควรใส่โดโลไมด์อัตรา 100-150 กรัม/ตร.ม.

การปลูก
ทำแปลงกว้าง 1 ม. เว้นร่องน้ำ 70 ซม. ระยะห่างระหว่างหลุม 40-50 ซม. เวลาปลูกรองพื้นด้วยปุ๋ยสูตร 15-15-15 ผสมคลุกเคล้ากัน ควรใส่โดโลไมด์ อัตรา 100-150 กรัม/ตร.ม.
ชมสินค้าทั้งหมดและสั่งของได้ที่เว็บร้านครับ
http://www.suanattaporn.com/ 
Facebook แฟนเพจ https://www.facebook.com/suanattaporn
Line page : @suanattaporn
(กดเพิ่มเพื่อนและอย่าลืมใส่ @ ด้วยนะ)
e-mail : hokcamain1@hotmail.com
การให้น้ำและปุ๋ย ควรให้ปุ๋ยพร้อมน้ำระบบ Fertigation ในอัตราดังนี้
ระยะที่ 1    
ปุ๋ย 46-0-0     1 ส่วนน้ำหนัก
ปุ๋ย 20-20-20     1.2 ส่วนน้ำหนัก
หรือ สูตรใกล้เคียง อัตราใช้ 0.25-1 กรัม/ตร.ม./วัน
ระยะที่ 2    
ปุ๋ย 46-0-0     1 ส่วนน้ำหนัก
ปุ๋ย 20-20-20     1.2 ส่วนน้ำหนัก
หรือ ปุ๋ย 20-10-30 หรือ ปุ๋ยสูตรใกล้เคียง อัตรา 1-3 กรัม/ตร.ม./วัน หรือมากกว่า
ระยะที่ 3    
ปุ๋ย 0-0-51     1 ส่วนน้ำหนัก
ปุ๋ย 20-10-30     5 ส่วนน้ำหนัก
หรือ ปุ๋ย 20-10-30 หรือ ปุ๋ยสูตรใกล้เคียง อัตรา 3 กรัม/ตร.ม./วัน หรือมากกว่า

การเก็บเกี่ยวพริกหวาน 
พันธุ์สีเขียวเก็บเกี่ยวเมื่อผลผลิตผิวเรียบ และแห้ง ใช้กรรไกรตัดตรงขั้ว พันธุ์สีแดงและเหลือง เก็บเกี่ยววิธีเดียวกับพันธุ์สีเขียว แต่เก็บเกี่ยวเมื่อผลเริ่มมีสีได้มากกว่า 70-80 เปอร์เซ็นต์

โรคแมลงศัตรูที่สำคัญ พริกหวาน Sweet Pepper, Bell Pepper, Capcicum, ในระยะต่างๆ ของการเจริญเติบโต
ระยะกล้า 18-21 วัน โรคที่พบ เช่นโรคเหี่ยว, โรคใบจุด, โรคไวรัส, โรครากปม,
ระยะย้ายปลูก-ตั้งตัว 21-28 วัน  โรคที่พบ เช่นแอนแทรคโนส, โรคเหี่ยว, โรคราแป้ง, โรคใบจุด, โรคเน่าเปียก, โรคไวรัส, โรคใบไหม้, โรครากปม, ไรขาว,
ระยะเจริญเติบโต 50-60 วัน โรคที่พบ เช่น แอนแทรคโนส, โรคเหี่ยว, โรคราแป้ง, โรคใบจุด, โรคเน่าเปียก, โรคไวรัส, โรคใบไหม้, โรครากปม, ไรขาว,
ระยะเก็บเกี่ยว 90-100 วัน  โรคที่พบ เช่นแอนแทรคโนส, โรคเหี่ยว, โรคราแป้ง, โรคใบจุด, โรคเน่าเปียก, โรคไวรัส, โรคใบไหม้, โรครากปม, ไรขาว, แมลงวันแตง,
ขอบคุณที่มา
http://tik-farm.blogspot.com/2012/05/blog-post_13.html