Google Street View (กูเกิลสตรีทวิว) ที่เพิ่มมิติการชมแผนที่ให้ดูสมจริง และเข้าใจง่ายมากขึ้น
ถือเป็นโชคดีของประเทศไทย เพราะไทยเป็นประเทศที่ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่กูเกิลเลือกมาเปิดบริการตัวนี้ และเป็นประเทศที่ 35 ของโลก ที่มีบริการแผนที่ในรูปแบบสตรีทวิว (มุมมองคนเดิน) ทั้งนี้กูเกิลได้เริ่มเปิดตัวเก็บข้อมูลภาพถ่ายท้องถนน และเส้นทางต่างๆ ในรูปแบบพาโนรามา 360 องศา ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน ปี 2554 ด้วยรถที่ติดกล้องถ่ายรูปที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ จำนวน 15 คัน เดินสายเก็บภาพถ่ายทั่วประเทศ ล่าสุด
แม้ว่าการเก็บภาพถ่ายจะดำเนินไปไม่ถึง 50% แต่ทางกูเกิลก็ลัดคิวเปิดบริการแผนที่สตรีทวิวของ 3 จังหวัดท่องเที่ยวสำคัญนำร่องออกมาก่อน นั่นก็คือ กรุงเทพฯ และปริมณฑล เชียงใหม่ และภูเก็ต โดยผู้ใช้ชาวไทยหรือนักท่องเที่ยวที่สนใจ
สามารถเข้าไปลองใช้บริการได้แล้วที่เว็บไซต์ ตามลิงก์นี้ http://maps.google.co.th/streetview/
ส่วนวิธีใช้ก็ไม่ยากอะไร เพียงซูมเข้าไปที่ระดับต่ำสุดบนแผนที่ของ Google หรือลากไอคอนตุ๊กตา "Pegman" สีส้ม ทางด้านซ้ายของแผนที่ไปยังถนนที่เป็นเส้นไฮไลต์สีฟ้าเท่านั้น ภาพถนนจริงด้วยมุมมองคนเดินจะปรากฏออกมา
แน่นอนการมาของบริการตัวนี้ ส่งผลกระทบใน 2 มุม คือ ทั้งด้านบวกและด้านลบ
โดยฝ่ายที่คิดลบ มองโลกในแง่ร้าย จะรู้สึกว่า เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เพราะอาณาเขต พื้นที่ส่วนตัว จะกลายเป็นสาธารณะทันที เมื่อรูปภาพปรากฏอยู่ในบริการตัวนี้ เรื่องนี้เป็นประเด็นปัญหาที่ "กูเกิล" ให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะมันกลายเป็นข้อพิพาทที่เกิดขึ้นมาแล้วทั่วโลก ซึ่งทางกูเกิลจึงพยายามปกป้องข้อมูล และไม่ทำอะไรก็ตามที่จะเข้าข่ายการละเมิดสิทธิ โดยก่อนจะเผยแพร่แผนที่สตรีทวิวออกไป จะมีการเซ็นเซอร์หน้าของคนในรูปถ่าย บ้านเลขที่ ทะเบียนรถ และถ้ายังมีภาพใดที่ออกมาแล้วตัวบุคคลที่อยู่ในภาพไม่พอใจ ก็ยังสามารถแจ้งไปยังกูเกิลเพื่อให้ลบหรือแก้ไขภาพนั้นได้ ขณะเดียวกัน เมื่อมีด้านลบก็มีด้านดี เพราะบริการสตรีทวิวนั้นเป็นประโยชน์มากสำหรับองค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก
ร้านค้าชุมชน รวมถึงแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งแผนที่แบบสตรีทวิวจะกลายเป็นช่องทางที่จะโปรโมตธุรกิจให้เข้าถึงผู้ใช้ในวงกว้าง ซึ่งมันก็คือ สื่อในการประชาสัมพันธ์ที่ทรงประสิทธิภาพโดยไม่ต้องเสียเงินโฆษณาซักแดงเดียว เพียงเข้าไปปักหมุดในแผนที่กูเกิลแม็พ คุณก็สามารถโปรโมตสินค้าและบริการแบบฟรีๆ ได้แล้ว โดย น.ส.พรทิพย์ กองชุน หัวหน้าฝ่ายการตลาด กูเกิล ประเทศไทย ยกตัวอย่างความสำเร็จจากการเปิดตัวบริการสตรีทวิวในแต่ละประเทศ ซึ่งพบว่า บริการนี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าพื้นที่เพิ่มขึ้น เช่น ประเทศสเปน มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 25% ขณะที่สหราชอาณาจักรช่วงแรกของการเปิดตัวมีนักท่องเที่ยวเข้าเว็บไซต์กูเกิลเพื่อค้นหาแผนที่เพิ่มขึ้น 40% และในแต่ละปี อังกฤษคลิกกูเกิล เติบโตเฉลี่ย 20% โดยกูเกิลคาดหวังว่าประเทศไทยจะมีผลตอบรับในลักษณะเดียวกัน ตอนนี้หน่วยงานท่องเที่ยวของไทย
อย่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก็สนใจที่จะต่อยอดบริการตัวนี้ เพื่อจะนำมาใช้เป็นเครื่องมือโปรโมตการท่องเที่ยวของไทย ล่าสุดนาย นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการ ททท. ก็มีแผนต่อยอดการถ่ายภาพสตรีทวิว ซึ่ง ททท.เตรียมอำนวยความสะดวกให้กับทีมถ่ายทำ เพื่อต่อยอดการถ่ายภาพในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ นำร่อง 7 แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมรดกโลกของประเทศไทย เริ่มถ่ายทำที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และสุโขทัย ซึ่งการเปิดตัวแผนที่ สตรีทวิวในครั้งนี้ ททท.คาดหวังว่านักท่องเที่ยวคนไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ไทยเพิ่มขึ้น 25%
โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ แถมยังเตรียมจัดทำแคมเปญมหัศจรรย์เมืองไทยของฉัน เพื่อให้คนไทยร่วมโหวตคะแนนแหล่งท่องเที่ยวที่มีความประทับใจ รวมถึงร่วมส่งภาพถ่ายความประทับใจเข้ามาใน http://www.tourismthailand.org/mymiracle ตั้งแต่วันนี้-เดือน มิ.ย.อีกด้วย บทสรุปของบริการตัวนี้มันก็เหมือนกับเหรียญมีสองด้าน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ข้อมูลเดียวกัน แต่เจตนาใช้ต่างกัน ผลที่ออกมาก็ต่างกัน กลุ่มโจรผู้ร้ายอาจใช้สตรีทวิวในการวางแผนก่อการร้าย ส่วนตำรวจ นักดับเพลิง ก็ใช้ข้อมูลจากสตรีทวิวเพื่อวิเคราะห์วางแผนการทำงาน ช่วยแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ หรือจับโจรผู้ร้าย หรือสิ่งผิดกฎหมาย ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการใช้ แต่โดยส่วนตัว
บริการกูเกิลสตรีทวิวน่าจะมีผลดีมากกว่าผลเสีย โดยเฉพาะมนุษย์ที่หลงทางง่ายๆ เหมือนผู้เขียน ที่จะสามารถวางแผนกำหนดเส้นทางได้ง่าย และสะดวกกว่าเดิม ทำให้ประหยัดเวลา และประหยัดน้ำมันในภาวะที่ราคาพลังงานแพงหูฉี่.
ถือเป็นโชคดีของประเทศไทย เพราะไทยเป็นประเทศที่ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่กูเกิลเลือกมาเปิดบริการตัวนี้ และเป็นประเทศที่ 35 ของโลก ที่มีบริการแผนที่ในรูปแบบสตรีทวิว (มุมมองคนเดิน) ทั้งนี้กูเกิลได้เริ่มเปิดตัวเก็บข้อมูลภาพถ่ายท้องถนน และเส้นทางต่างๆ ในรูปแบบพาโนรามา 360 องศา ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน ปี 2554 ด้วยรถที่ติดกล้องถ่ายรูปที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ จำนวน 15 คัน เดินสายเก็บภาพถ่ายทั่วประเทศ ล่าสุด
แม้ว่าการเก็บภาพถ่ายจะดำเนินไปไม่ถึง 50% แต่ทางกูเกิลก็ลัดคิวเปิดบริการแผนที่สตรีทวิวของ 3 จังหวัดท่องเที่ยวสำคัญนำร่องออกมาก่อน นั่นก็คือ กรุงเทพฯ และปริมณฑล เชียงใหม่ และภูเก็ต โดยผู้ใช้ชาวไทยหรือนักท่องเที่ยวที่สนใจ
โดยฝ่ายที่คิดลบ มองโลกในแง่ร้าย จะรู้สึกว่า เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เพราะอาณาเขต พื้นที่ส่วนตัว จะกลายเป็นสาธารณะทันที เมื่อรูปภาพปรากฏอยู่ในบริการตัวนี้ เรื่องนี้เป็นประเด็นปัญหาที่ "กูเกิล" ให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะมันกลายเป็นข้อพิพาทที่เกิดขึ้นมาแล้วทั่วโลก ซึ่งทางกูเกิลจึงพยายามปกป้องข้อมูล และไม่ทำอะไรก็ตามที่จะเข้าข่ายการละเมิดสิทธิ โดยก่อนจะเผยแพร่แผนที่สตรีทวิวออกไป จะมีการเซ็นเซอร์หน้าของคนในรูปถ่าย บ้านเลขที่ ทะเบียนรถ และถ้ายังมีภาพใดที่ออกมาแล้วตัวบุคคลที่อยู่ในภาพไม่พอใจ ก็ยังสามารถแจ้งไปยังกูเกิลเพื่อให้ลบหรือแก้ไขภาพนั้นได้ ขณะเดียวกัน เมื่อมีด้านลบก็มีด้านดี เพราะบริการสตรีทวิวนั้นเป็นประโยชน์มากสำหรับองค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก
ร้านค้าชุมชน รวมถึงแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งแผนที่แบบสตรีทวิวจะกลายเป็นช่องทางที่จะโปรโมตธุรกิจให้เข้าถึงผู้ใช้ในวงกว้าง ซึ่งมันก็คือ สื่อในการประชาสัมพันธ์ที่ทรงประสิทธิภาพโดยไม่ต้องเสียเงินโฆษณาซักแดงเดียว เพียงเข้าไปปักหมุดในแผนที่กูเกิลแม็พ คุณก็สามารถโปรโมตสินค้าและบริการแบบฟรีๆ ได้แล้ว โดย น.ส.พรทิพย์ กองชุน หัวหน้าฝ่ายการตลาด กูเกิล ประเทศไทย ยกตัวอย่างความสำเร็จจากการเปิดตัวบริการสตรีทวิวในแต่ละประเทศ ซึ่งพบว่า บริการนี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าพื้นที่เพิ่มขึ้น เช่น ประเทศสเปน มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 25% ขณะที่สหราชอาณาจักรช่วงแรกของการเปิดตัวมีนักท่องเที่ยวเข้าเว็บไซต์กูเกิลเพื่อค้นหาแผนที่เพิ่มขึ้น 40% และในแต่ละปี อังกฤษคลิกกูเกิล เติบโตเฉลี่ย 20% โดยกูเกิลคาดหวังว่าประเทศไทยจะมีผลตอบรับในลักษณะเดียวกัน ตอนนี้หน่วยงานท่องเที่ยวของไทย
อย่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก็สนใจที่จะต่อยอดบริการตัวนี้ เพื่อจะนำมาใช้เป็นเครื่องมือโปรโมตการท่องเที่ยวของไทย ล่าสุดนาย นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการ ททท. ก็มีแผนต่อยอดการถ่ายภาพสตรีทวิว ซึ่ง ททท.เตรียมอำนวยความสะดวกให้กับทีมถ่ายทำ เพื่อต่อยอดการถ่ายภาพในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ นำร่อง 7 แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมรดกโลกของประเทศไทย เริ่มถ่ายทำที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และสุโขทัย ซึ่งการเปิดตัวแผนที่ สตรีทวิวในครั้งนี้ ททท.คาดหวังว่านักท่องเที่ยวคนไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ไทยเพิ่มขึ้น 25%
โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ แถมยังเตรียมจัดทำแคมเปญมหัศจรรย์เมืองไทยของฉัน เพื่อให้คนไทยร่วมโหวตคะแนนแหล่งท่องเที่ยวที่มีความประทับใจ รวมถึงร่วมส่งภาพถ่ายความประทับใจเข้ามาใน http://www.tourismthailand.org/mymiracle ตั้งแต่วันนี้-เดือน มิ.ย.อีกด้วย บทสรุปของบริการตัวนี้มันก็เหมือนกับเหรียญมีสองด้าน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ข้อมูลเดียวกัน แต่เจตนาใช้ต่างกัน ผลที่ออกมาก็ต่างกัน กลุ่มโจรผู้ร้ายอาจใช้สตรีทวิวในการวางแผนก่อการร้าย ส่วนตำรวจ นักดับเพลิง ก็ใช้ข้อมูลจากสตรีทวิวเพื่อวิเคราะห์วางแผนการทำงาน ช่วยแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ หรือจับโจรผู้ร้าย หรือสิ่งผิดกฎหมาย ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการใช้ แต่โดยส่วนตัว
บริการกูเกิลสตรีทวิวน่าจะมีผลดีมากกว่าผลเสีย โดยเฉพาะมนุษย์ที่หลงทางง่ายๆ เหมือนผู้เขียน ที่จะสามารถวางแผนกำหนดเส้นทางได้ง่าย และสะดวกกว่าเดิม ทำให้ประหยัดเวลา และประหยัดน้ำมันในภาวะที่ราคาพลังงานแพงหูฉี่.
